Книги, похожие на «Elmar Valmre, Ennustus relval»

เคทลินและคาเลปเดินทางไปด้วยกันเพื่อค้นหาวัตถุที่สามารถยับยั้งสงครามระหว่างแวมไพร์และมนุษย์ที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า พวกเขาต้องตามหาดาบที่หายสาบสูญ ดาบในตำนานของแวมไพร์ แม้ว่าจะมีข้อสงสัยมากมายว่ามันมีอยู่จริงหรือไม่หนึ่งในความหวังของการค้นหาดาบคือการสืบหาต้นตระกูลของเคทลิน เธอเป็นผู้ถูกเลือกจริงหรือ? การเสาะหาของพวกเขาเริ่มต้นที่การตามหาพ่อของเคทลิน เขาคือใคร? ทำไมเขาทิ้งเธอไป? เมื่อการค้นหาขยายวงกว้างมากขึ้น พวกเขาต้องตกใจกับสิ่งที่ค้นพบว่าจริง ๆ แล้วเธอคือใครแต่พวกเขาไม่ใช่กลุ่มเดียวที่กำลังค้นหาดาบในตำนาน กลุ่มแบล็กไทด์ก็ต้องการดาบนี้เช่นกัน พวกมันกำลังไล่ตามร่องรอยของเคทลินและคาเลป ที่แย่ไปกว่านั้น แชมผู้เป็นน้องชายคนเล็กของเคทลิน ยังคงยึดติดกับการตามหาพ่อของเขา และในไม่ช้าแซมพบว่าเขาได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกินกำลัง เขาได้ก้าวเข้าสู่กึ่งกลางของสงครามแวมไพร์ เขาจะได้รับอันตรายจากการค้นหาหรือไม่?เคทลินและคาเลปเดินทางไปยังสถานที่ทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ตั้งแต่หุบเขาฮัดสัน ซาเล็ม ไปจนถึงศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของบอสตัน จุดที่เคยเป็นที่แขวนคอของแม่มดบนหุบเขา บอสตัน คอมมอน ทำไมสถานที่เหล่านี้จึงมีความสำคัญกับเผ่าพันธุ์แวมไพร์? เกี่ยวข้องกับบรรพบุรุษของเคทลินอย่างไร และเธอกำลังจะกลายเป็นอะไร?อย่างไรก็ตาม พวกเขาอาจทำไม่สำเร็จ ความรักของเคทลินและคาเลปกำลังเบ่งบาน ความรักต้องห้ามของพวกเขาอาจทำลายทุกอย่างที่พวกเขาคาดหวังไว้…

เคทลินและคาเลปเดินทางไปด้วยกันเพื่อค้นหาวัตถุที่สามารถยับยั้งสงครามระหว่างแวมไพร์และมนุษย์ที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า พวกเขาต้องตามหาดาบที่หายสาบสูญ ดาบในตำนานของแวมไพร์ แม้ว่าจะมีข้อสงสัยมากมายว่ามันมีอยู่จริงหรือไม่หนึ่งในความหวังของการค้นหาดาบคือการสืบหาต้นตระกูลของเคทลิน เธอเป็นผู้ถูกเลือกจริงหรือ? การเสาะหาของพวกเขาเริ่มต้นที่การตามหาพ่อของเคทลิน เขาคือใคร? ทำไมเขาทิ้งเธอไป? เมื่อการค้นหาขยายวงกว้างมากขึ้น พวกเขาต้องตกใจกับสิ่งที่ค้นพบว่าจริง ๆ แล้วเธอคือใครแต่พวกเขาไม่ใช่กลุ่มเดียวที่กำลังค้นหาดาบในตำนาน กลุ่มแบล็กไทด์ก็ต้องการดาบนี้เช่นกัน พวกมันกำลังไล่ตามร่องรอยของเคทลินและคาเลป ที่แย่ไปกว่านั้น แชมผู้เป็นน้องชายคนเล็กของเคทลิน ยังคงยึดติดกับการตามหาพ่อของเขา และในไม่ช้าแซมพบว่าเขาได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกินกำลัง เขาได้ก้าวเข้าสู่กึ่งกลางของสงครามแวมไพร์ เขาจะได้รับอันตรายจากการค้นหาหรือไม่?เคทลินและคาเลปเดินทางไปยังสถานที่ทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ตั้งแต่หุบเขาฮัดสัน ซาเล็ม ไปจนถึงศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของบอสตัน จุดที่เคยเป็นที่แขวนคอของแม่มดบนหุบเขา บอสตัน คอมมอน ทำไมสถานที่เหล่านี้จึงมีความสำคัญกับเผ่าพันธุ์แวมไพร์? เกี่ยวข้องกับบรรพบุรุษของเคทลินอย่างไร และเธอกำลังจะกลายเป็นอะไร?อย่างไรก็ตาม พวกเขาอาจทำไม่สำเร็จ ความรักของเคทลินและคาเลปกำลังเบ่งบาน ความรักต้องห้ามของพวกเขาอาจทำลายทุกอย่างที่พวกเขาคาดหวังไว้…

เคทลินและคาเลปเดินทางไปด้วยกันเพื่อค้นหาวัตถุที่สามารถยับยั้งสงครามระหว่างแวมไพร์และมนุษย์ที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า พวกเขาต้องตามหาดาบที่หายสาบสูญ ดาบในตำนานของแวมไพร์ แม้ว่าจะมีข้อสงสัยมากมายว่ามันมีอยู่จริงหรือไม่หนึ่งในความหวังของการค้นหาดาบคือการสืบหาต้นตระกูลของเคทลิน เธอเป็นผู้ถูกเลือกจริงหรือ? การเสาะหาของพวกเขาเริ่มต้นที่การตามหาพ่อของเคทลิน เขาคือใคร? ทำไมเขาทิ้งเธอไป? เมื่อการค้นหาขยายวงกว้างมากขึ้น พวกเขาต้องตกใจกับสิ่งที่ค้นพบว่าจริง ๆ แล้วเธอคือใครแต่พวกเขาไม่ใช่กลุ่มเดียวที่กำลังค้นหาดาบในตำนาน กลุ่มแบล็กไทด์ก็ต้องการดาบนี้เช่นกัน พวกมันกำลังไล่ตามร่องรอยของเคทลินและคาเลป ที่แย่ไปกว่านั้น แชมผู้เป็นน้องชายคนเล็กของเคทลิน ยังคงยึดติดกับการตามหาพ่อของเขา และในไม่ช้าแซมพบว่าเขาได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกินกำลัง เขาได้ก้าวเข้าสู่กึ่งกลางของสงครามแวมไพร์ เขาจะได้รับอันตรายจากการค้นหาหรือไม่?เคทลินและคาเลปเดินทางไปยังสถานที่ทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ตั้งแต่หุบเขาฮัดสัน ซาเล็ม ไปจนถึงศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของบอสตัน จุดที่เคยเป็นที่แขวนคอของแม่มดบนหุบเขา บอสตัน คอมมอน ทำไมสถานที่เหล่านี้จึงมีความสำคัญกับเผ่าพันธุ์แวมไพร์? เกี่ยวข้องกับบรรพบุรุษของเคทลินอย่างไร และเธอกำลังจะกลายเป็นอะไร?อย่างไรก็ตาม พวกเขาอาจทำไม่สำเร็จ ความรักของเคทลินและคาเลปกำลังเบ่งบาน ความรักต้องห้ามของพวกเขาอาจทำลายทุกอย่างที่พวกเขาคาดหวังไว้…

Fowlesi loomingus on korduvaks motiiviks kangelase konflikt eneseteostuse ning ühiskonnas eksisteerivate reeglite vahel. Tihti juhatab kangelast vabaduse poole keegi saladuslik tundmatu ning teetähiseks pole mitte keelud ja käsud, vaid üha uued mõistatused. Nii satub ka „Maagi” minategelane Nicholas Urfe ühel Kreeka saarel psühholoogilisse mängu, milles põimuvad tihedalt reaalsus ja illusioonid.Eessõnas Fowlesi peateoseks peetud „Maagile” on autor öelnud, et raamatu tähendus on just see reaktsioon, mille raamat lugejas esile kutsub, ning ta ei taha öelda, nagu oleks olemas mingi „õige” reaktsioon.“On palju põhjusi, miks John Fowlesi „Maag“ kuulub mu lemmikute hulka. Üks neist väljendub mõttes, et mida rohkem inimene vabadust mõistab, seda vähem tal seda on. Fowlesi romaan esitabki erootilise põneviku käigus küsimuse: kui vaba peab olema inimese armastus? Kas inimene peaks teostama armastuse kaudu iseennast või iseenda kaudu armastust? Üks võimalik vastus: armastus teeb inimese heaks ainult siis, kui inimene teeb midagi armastuse heaks, kui ta võtab oma armastuse eest vastutuse.” Jan Kaus